ICHI ประกาศงบ Q2 รายได้ 1,492.7 ลบ. กำไร 164.3 ลบ. ครึ่งปีหลังพร้อมปิดดีล OEM เพิ่ม

236

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ว่าอิชิตันยังสามารถรักษายอดขายในประเทศและกำไรสุทธิให้มีการเติบโต ส่งผลให้ผลประกอบการงวดประจำไตรมาส 2/2564 มีรายได้จากการขาย 1,492.7 ล้านบาท เติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อน 9% กำไรสุทธิ 164.3 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 10% นอกจากนี้ อิชิตัน อินโดนีเซีย บริษัทร่วมฯ ส่งสัญญาณบวกต่อเนื่อง สร้างการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเข้ามา 8.6 ล้านบาท ในขณะที่ไตรมาส 2 ปีนี้ อิชิตันรับรู้รายได้จากธุรกิจ OEM จากลูกค้า King Power Multiply by Eight เป็นไตรมาสแรก สนับสนุนอัตรากำไรสุทธิยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 11%

ความสำเร็จของผลประกอบการในไตรมาส 2 นี้ มาจากกลยุทธ์การทำสินค้าเมนสตรีมให้ตรงตามความต้องการของกลุ่มตลาดร้านค้าปลีกรายย่อยทั่วประเทศ (Traditional Trade) ตอบโจทย์ผู้บริโภคในสถานการณ์ปัจจุบันได้ดี ส่งผลให้ภาพรวมตลาดชาเขียวพร้อมดื่ม “อิชิตัน” และ “เย็นเย็น” มีการเติบโตในเชิงบวกต่อเนื่อง

ฟากเครื่องดื่มกลุ่ม Non Tea ส่งสินค้าใหม่ “อิชิตัน น้ำด่าง 8.5 ผสมวิตามิน D และกิงโกะ” ช่วยดูแลสุขภาพคนไทยด้วยวิตามิน D สูง ที่มีส่วนช่วยในการทำหน้าที่ตามปกติของระบบภูมิคุ้มกัน มาพร้อมจุดเด่น “น้ำด่าง” จากเทคโนโลยีการผลิตระดับโลกมาตรฐานจากประเทศญี่ปุ่นที่แตกต่างกว่าสินค้าอื่นๆ ในตลาดเครื่องดื่มผสมวิตามิน สนับสนุนให้ภาพรวมในพอร์ทวิตามิน วอเตอร์ แม้จะเริ่มบุกตลาดได้เพียง 1 ปี แต่สามารถครองการเป็นกลุ่มผู้นำ Top5 โดยภาพรวมตลาดเครื่องดื่มผสมวิตามินในประเทศไทยครึ่งปีแรกปี 2564 มีอัตราการเติบโตขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนราว 77.1% หรืออยู่ที่ 1,295.4 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตสูงสุดในตลาดเครื่องดื่มทั้งหมด

สำหรับครึ่งปีหลัง อิชิตันพร้อมบุกตลาดเครื่องดื่มสุขภาพด้วยการส่งชาพรีเมียม ชิซึโอกะ โฮจิฉะ สูตรหวานน้อย (Shizuoka Hojicha mildly sweet) “อิชิตัน กรีนที เอ็กซ์” ชาเขียว x วิตามิน นำ 2 คุณประโยชน์จากชาเขียวผสานวิตามิน C และวิตามิน A นำเข้าจากยุโรปในขวดเดียวกัน และเย็นเย็น มินิมอล น้ำตาลน้อย 2% ตอบโจทย์คนเมือง มั่นใจจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับอิชิตัน กรุ๊ป

พร้อมขยายศักยภาพด้าน OEM หรือธุรกิจรับจ้างผลิต ผลักดันการใช้อัตราการใช้กำลังผลิต (Utilization Rate) ให้อยู่ในระดับสูง ด้วยจุดเด่นระบบบรรจุเย็นแบบปลอดเชื้อ (Cold Aseptic Filling Technology) เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยที่สุดของโลกในปัจจุบัน ที่สามารถผลิตสินค้าได้หลายชนิดไม่จำกัดเพียงผลิตภัณฑ์ชาพร้อมดื่มเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเครื่องดื่มวิตามิน นม น้ำผลไม้ เครื่องดื่มชูกำลัง ฯลฯ ซึ่งทำให้พาร์ทเนอร์บริษัทชั้นนำทั้งในและต่างประเทศเชื่อมั่น ติดต่อเข้ามาใช้บริการ OEM โดยขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนเจรจาที่มีความเป็นไปได้  2-3 ราย และคาดว่าจะสามารถปิดดีลเพิ่มเติมได้อย่างน้อย 1 รายในปีนี้ หลังจากเริ่มรับรู้รายได้จากดีลของกลุ่ม King Power Multiply by Eight เป็นที่เรียบร้อยแล้ว